A : กรณียื่นจดทะเบียนสมรสที่ประเทศญี่ปุ่นก่อนแล้วแจ้งที่ประเทศไทยภายหลัง
B :  กรณียื่นจดทะเบียนสมรสที่ประเทศไทยก่อนแล้วแจ้งที่ประเทศญี่ปุ่นภายหลัง
B : กรณียื่นจดทะเบียนสมรสที่ประเทศไทยก่อนแล้วแจ้งที่ประเทศญี่ปุ่นภายหลัง
กรณีจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แห่งประเทศไทยนั้น คู่สมรสชาวญี่ปุ่นต้องยื่นขอ “หนังสือรับรองความเป็นโสด” และ “หนังสือปฏิญาณคุณสมบัติในการสมรส” จากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และนำเอกสารนั้นไปรับการประทับตรารับรองจากกรมการกงสุลกระทรวงการต่างประเทศไทยก่อนแล้วจึงนำไปยื่น ณ ที่ว่าการเขต/อำเภอของประเทศไทยต่อไปอนึ่ง คู่สมรสฝ่ายญี่ปุ่นจะต้องมายื่นขอหนังสือรับรองที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยและจำเป็นต้องแสดงตัว ณ ที่ว่าการเขต/อำเภอของประเทศไทยด้วยตนเอง โดยจากระเบียบการดังกล่าวแล้วจะต้องใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ ดังนั้น คู่สมรสฝ่ายญี่ปุ่นที่จะยื่นจดทะเบียนสมรสที่ประเทศไทยก่อนนั้น กรุณาเผื่อเวลาการพำนักในประเทศไทยด้วย
ก) การจดทะเบียนสมรส ณ ที่ว่าการเขต / อำเภอของประเทศไทย
(1) การยื่นขอ “หนังสือปฏิญาณคุณสมบัติในการสมรส” และ “หนังสือรับรองความเป็นโสด” นั้น กรุณาเตรียมเอกสารตามที่ระบุดังต่อไปนี้
[เอกสารจำเป็นของคู่สมรสฝ่ายญี่ปุ่น]
-  ทะเบียนครอบครัวญี่ปุ่น (โคะเซกิโทฮ่ง)  1 ฉบับ
	 ทะเบียนครอบครัวต้องออกภายใน 3 เดือนนับถึงวันที่มายื่น
	สำหรับผู้ที่เคยสมรสมาก่อนต้องนำทะเบียนครอบครัวที่ระบุเรื่องการหย่าหรือการเสียชีวิตของคู่สมรสเดิมมาด้วย
	หนังสือรับรองความเป็นโสดนั้นออกจากทะเบียนครอบครัวญี่ปุ่น ดังนั้น กรุณาเขียนคำอ่าน (ฟุริกานา) กำกับชื่อสกุล, ชื่อบิดามารดา,   
          ภูมิลำเนาและสถานที่เกิดด้วย 
 
 
 - ทะเบียนบ้านญี่ปุ่น (จูมินเฮียว) 1 ฉบับ (ซึ่งออกภายใน 3 เดือนนับถึงวันที่มายื่น)  
   
กรณีบุคคลที่พำนักในประเทศอื่นๆ นอกจากประเทศญี่ปุ่น 
a. บุคคลที่พำนักในประเทศไทย 
สถานทูตญี่ปุ่นจะตรวจสอบที่อยู่ปัจจุบันกับ “ใบแจ้งถิ่นที่อยู่” ที่ยื่นต่อสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยb. บุคคลที่พำนักในประเทศอื่นๆ นอกจากประเทศไทย 
กรุณายื่น “หนังสือรับรองถิ่นที่อยู่” ที่มีการบันทึกที่อยู่ปัจจุบันและออกจากประเทศที่ตนพำนักอยู่ -  หนังสือรับรองการทำงาน (ไซโชคุโชเมโชะ)   1 ฉบับ 
(ซึ่งออกภายใน 3 เดือนนับถึงวันที่มายื่น)
 หนังสือรับรองการทำงานที่ตนเองพิมพ์ขึ้นหรือออกจากบริษัทนั้นต้องได้รับการประทับตรารับรองจากเจ้าหน้าที่ทะเบียนของสำนักงานทะเบียน
(โคโชนินยะคุบะ) แล้วจึงนำไปรับการประทับตรารับรองว่าเป็นการรับรองที่ถูกต้องของเจ้าหน้าที่ทะเบียนที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานด้านกฎหมายส่วนท้องถิ่นของกระทรวงยุติธรรม
 (ชิโฮโฮมุเคียวคุ) 
	 ในกรณีหนังสือรับรองการทำงานออกจากหน่วยงานราชการแล้วก็ไม่จำเป็นต้องรับการประทับตรารับรองอีก

กรณีบุคคลที่พำนักในประเทศอื่นๆ นอกจากประเทศญี่ปุ่นa. บุคคลที่พำนักในประเทศไทย 
• “หนังสือรับรองการทำงาน” ที่ออกจากสถานที่ทำงานนั้นต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ, ภาษาไทย, ภาษาญี่ปุ่นก็ได้
• ใบอนุญาตการทำงานในประเทศไทย (ต้นฉบับ) พร้อมสำเนา 1 ชุดb. บุคคลที่พำนักในประเทศอื่นๆ นอกจากประเทศไทย 
• หลังจากได้รับ “หนังสือรับรองการทำงาน” ที่ออกจากสถานที่ทำงานแล้ว กรุณานำไปรับการประทับตรารับรองจาก NOTARY PUBLIC ในประเทศนั้น ๆ ด้วย -  หนังสือรับรองรายได้ (โชะโทคุโชเมโช) 1 ฉบับ (ซึ่งออกภายใน 3 
เดือนนับถึงวันที่มายื่น)  
	 หนังสือรับรองรายได้ซึ่งออกจากสำนักทะเบียนท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่น
	หนังสือรับรองการเสียภาษีซึ่งออกจากบริษัทฯ ต้องได้รับการประทับตรารับรองจากเจ้าหน้าที่ทะเบียนของ สำนักงานทะเบียน (โคโชนินยะคุบะ) แล้วจึงนำไปรับการประทับตรารับรองฯ จากสำนักงานด้านกฎหมายส่วนท้องถิ่นของกระทรวงยุติธรรม (ชิโฮโฮมุเคียวคุ) ด้วย
	
 กรณีบุคคลที่พำนักในประเทศอื่นๆ นอกจากประเทศญี่ปุ่น 
 a. บุคคลที่พำนักในประเทศไทย 
•“หนังสือรับรองรายได้” ที่ออกจากสถานที่ทำงานนั้นต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาไทย หรือภาษาญี่ปุ่นก็ได้b. บุคคลที่พำนักในประเทศอื่นๆ นอกจากประเทศไทย 
•หลังจากได้รับ “หนังสือรับรองรายได้” ที่ออกจากสถานที่ทำงานแล้ว กรุณานำไปรับรองจาก NOTARY PUBLIC ด้วย หากเอกสาร ไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่นหรืออังกฤษ กรุณาแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นมาด้วย - หนังสือเดินทาง (ตัวจริงและสำเนาหน้ารายละเอียด 1 ชุด)
 -  ใบคำร้องในการขอหนังสือรับรอง 1 ฉบับ (กรอกด้วยภาษาญี่ปุ่นหรือภาษาอังกฤษ)  
	 ใบคำร้องฯ จัดวางไว้ในห้องยื่นขอหนังสือรับรองและขอได้ที่ที่เคาน์เตอร์สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
	 ใบคำร้องฯ     →   WORD  /   
PDF  
	 ตัวอย่างการกรอกใบคำร้องฯ     →   WORD  /  
PDF   - แบบสอบถามเพื่อพิมพ์ [ หนังสือปฏิญาณคุณสมบัติในการสมรส ]
กรุณากรอกข้อความในแบบสอบถามให้ครบถ้วนเพื่อที่สถานทูตญี่ปุ่นจะได้ใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการพิมพ์
[ หนังสือปฏิญาณคุณสมบัติในการสมรส] -  หนังสือมอบอำนาจ     1    ใบ (ในกรณีให้ผู้อื่นมายื่นแทน)
 
* บุคคลที่ไม่ได้ทำงาน ไม่จำเป็นต้องใช้
* กรณีเป็นนักศึกษาต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันที่กำลังศึกษา
*บุคคลที่ไม่ได้ทำงาน ไม่จำเป็นต้องใช้
- บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริงและสำเนา 1 ฉบับ)
 -   ทะเบียนบ้าน  (ตัวจริงและสำเนา 1 ฉบับ)
	 หน้าซึ่งต้องถ่ายสำเนา
• หน้าที่อยู่/ หน้ารายละเอียดของผู้ยื่น/ กรณีคู่สมรสฝ่ายไทยมีการแก้ไขรายการใดๆ แล้ว กรุณาถ่ายสำเนาหน้า 18 มาด้วย
 -    หนังสือเดินทาง   (ตัวจริงและสำเนา 1 ชุด) 
	 ถ้าไม่มีก็ไม่จำเป็นต้องนำมา -    กรุณาเตรียมเอกสารข้างล่างนี้มาด้วย ในกรณี........
	 กรณีเคยสมรสมาก่อน......... ใบสำคัญการหย่า ( ตัวจริงและสำเนา 1 ฉบับ)
	 กรณีเคยเปลี่ยนชื่อสกุล......... ใบเปลี่ยนชื่อสกุล ( ตัวจริงและสำเนา 1 ฉบับ)
	 กรณีมีบุตรโดยไม่ได้สมรส......... ใบสูติบัตรของเด็ก ( ตัวจริงและสำเนา 1 ฉบับ) 
(2) หลังจากเตรียมเอกสารที่กล่าวมาข้างต้นครบถ้วนแล้ว กรุณานำมายื่นที่เคาน์เตอร์ แผนกหนังสือรับรองหนังสือเดินทาง ฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
สถานเอกอัครฯ จะออกหนังสือรับรองความเป็นโสด และ หนังสือปฏิญาณคุณสมบัติฯ ฉบับภาษาอังกฤษให้คู่สมรส
~ สำหรับอ้างอิง ~
(กรณีคู่สมรสฝ่ายญี่ปุ่นซึ่งจะทำการสมรสครั้งแรก) WORD / PDF
(กรณีคู่สมรสฝ่ายญี่ปุ่นที่เคยทำการสมรส) WORD / PDF
ในวันรับเรื่อง คู่สมรสฝ่ายญี่ปุ่นหรือเจ้าของเรื่องกรุณามาที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นด้วยเพื่อตรวจสอบเนื้อหาในหนังสือปฏิญาณคุณสมบัติในการสมรสซึ่งทางสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นพิมพ์ให้และลงลายมือชื่อในหนังสือรับรองดังกล่าว
[เงื่อนไขของผู้ยื่นคำร้อง]
ให้ผู้อื่นมายื่นแทนได้ (เวลายื่น กรุณานำหนังสือมอบอำนาจมาด้วย)
คู่สมรสฝ่ายญี่ปุ่นหรือเจ้าของเรื่องต้องมารับเรื่องด้วยตนเอง
[การรับเรื่อง]
สามารถมารับเรื่องคืนได้ในวันถัดจากวันยื่น
[ค่าธรรมเนียม]
หนังสือปฏิญาณคุณสมบัติในการสมรส480.00 บาท/หนังสือรับรองความเป็นโสด 340.00 บาท
ชำระค่าธรรมเนียมในวันที่มารับเรื่อง
[เวลาทำการเคาน์เตอร์]
เวลายื่นและรับเรื่อง ตั้งแต่เวลา 08:30-12:00 น. 13:30-16:00 น.
วันจันทร์-วันศุกร์ (วันหยุด วันเสาร์วันอาทิตย์, วันหยุดราชการไทย วันหยุดสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย(PDF))
(3) กรุณาแปล “หนังสือปฏิญาณคุณสมบัติในการสมรส” และ “หนังสือรับรองความเป็นโสด” ที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยออกให้นั้นเป็นภาษาไทยและนำไปรับการประทับตรารับรองจากกองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศไทยด้วย
* กองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศไทย
ที่อยู่ : เลขที่ 123 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 0-2203-5000・ Call Center 0-2572-8442
(4) หลังจากได้รับหนังสือรับรองฯ ที่กระทรวงการต่างประเทศไทยประทับตรารับรองแล้ว ให้คู่สมรสทั้งสองฝ่ายนำหนังสือรับรองฯ ดังกล่าวไปยื่น ณ ที่ว่าการเขต/อำเภอของประเทศไทยเพื่อทำการจดทะเบียนสมรสต่อไป อนึ่ง เกี่ยวกับเอกสารจำเป็นอื่นๆ ที่จะต้องนำไปยื่น ณ ที่ว่าการเขต/อำเภอของประเทศไทยเวลายื่นจดทะเบียนสมรสนั้น กรุณาสอบถามจากที่ว่าเขต/อำเภอของประเทศไทยโดยตรง
หลังจากที่ว่าการเขต/อำเภอของประเทศไทยรับเรื่องการจดทะเบียนสมรสแล้วจะออก “ใบสำคัญการสมรส” ให้คู่สมรสทั้งสอง เป็นการเสร็จสมบูรณ์ของระเบียบการจดทะเบียนในประเทศไทย
(5) คู่สมรสทั้งสองฝ่ายจะยื่นจดทะเบียนสมรส ณ ที่ว่าการเขต/อำเภอใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนสมรส ณ ที่ว่าการเขต/อำเภอที่คู่สมรสฝ่ายไทยมีทะเบียนบ้านอยู่ หากคู่สมรสหญิงฝ่ายไทยต้องการเปลี่ยนคำนำหน้านาม (จากนางสาวเป็นนาง)หรือต้องการเปลี่ยนนามสกุลตามคู่สมรสฝ่ายญี่ปุ่นหลังจากจดทะเบียนสมรสแล้ว คู่สมรสฝ่ายไทยกรุณาแจ้งที่ว่าการเขต/อำเภอที่ตนมีทะเบียนบ้านอยู่ด้วย
ข) การแจ้งเรื่องการจดทะเบียนสมรส ณ ประเทศญี่ปุ่น หลังจากจดทะเบียนสมรสที่ประเทศไทย
- 
     (1) หลังจากจดทะเบียนสมรสที่ประเทศไทยแล้ว  กรุณาแจ้งการจดทะเบียนสมรสดังกล่าว ณ สำนักทะเบียนเขต/อำเภอของประเทศญี่ปุ่นด้วย  โดยต้องแจ้งการจดทะเบียนสมรสภายในสามเดือน
 
การแจ้งการจดทะเบียนสมรส ณ ประเทศญี่ปุ่นนั้นจะแจ้งที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย หรือสำนักทะเบียนเขต/อำเภอของประเทศญี่ปุ่นก็ได้โดยยื่นเอกสารดังต่อไปนี้
(A) กรณีแจ้งการจดทะเบียนสมรส ณ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
[เอกสารจำเป็นของคู่สมรสทั้งฝ่ายไทยและญี่ปุ่น]
1. ใบคำร้องขอจดทะเบียนสมรส 2 ฉบับ → ตัวอย่างการกรอกใบคำร้องขอจดทะเบียนสมรส
[เอกสารจำเป็นของคู่สมรสฝ่ายญี่ปุ่น]
1.ทะเบียนครอบครัวญี่ปุ่น(โคะเซกิโทฮ่ง) 2 ฉบับ
[เอกสารจำเป็นของคู่สมรสฝ่ายไทย]
1. ใบสำคัญการสมรส (ตัวจริงและสำเนา 1 ชุด)
2. ทะเบียนบ้าน (ตัวจริงและสำเนา 1 ชุด)
(B) กรณีแจ้งการจดทะเบียนสมรส ณ สำนักทะเบียนท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่น (เอกสารจำเป็นที่ระบุไว้ข้างล่างนี้เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ดังนั้น กรุณาสอบถามรายละเอียดโดยตรงที่สำนักทะเบียนเขต/ท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่นที่จะแจ้งการจดทะเบียนสมรสก่อน)
[เอกสารจำเป็นของคู่สมรสทั้งฝ่ายไทยและญี่ปุ่น]
1. ใบคำร้องขอจดทะเบียนสมรส 2 ฉบับ → ตัวอย่างการกรอกใบคำร้องขอจดทะเบียนสมรส
[เอกสารจำเป็นของคู่สมรสฝ่ายญี่ปุ่น]
1.ทะเบียนครอบครัว (โคะเซกิโทฮ่ง) 1 ฉบับ
[เอกสารจำเป็นของคู่สมรสฝ่ายไทย]
1. ใบสำคัญการสมรส (ตัวจริงและสำเนา 1 ชุด)
2. ทะเบียนบ้าน (ตัวจริงและสำเนา 1 ชุด)
[หมายเหตุ]
[ข้อควรระวังเกี่ยวกับการแปลเอกสาร]
(2) หลังจากแจ้งการจดทะเบียนสมรสที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว จะใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ (กรณีแจ้งการจดทะเบียนฯ ที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยใช้เวลาเดือนครึ่งถึงสองเดือน) จึงได้รับทะเบียนครอบครัวใหม่ซึ่งบันทึกการสมรสกับคู่สมรสฝ่ายไทย แล้วจึงถือว่าเสร็จสิ้นระเบียบการการแจ้งการจดทะเบียนสมรส ณ ประเทศญี่ปุ่น อนึ่ง กรณีแจ้งการจดทะเบียนสมรสที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยนั้นสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นและสำนักทะเบียนท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่นจะไม่แจ้งให้คู่สมรสทราบเรื่องทะเบียนครอบครัวใหม่ซึ่งมีการบันทึกการสมรสกับคู่สมรสฝ่ายไทย ดังนั้น คู่สมรสฝ่ายญี่ปุ่นกรุณาสอบถามจากสำนักทะเบียนท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่นด้วยตนเอง
สถานที่ติดต่อสอบถาม | 
แผนกหนังสือรับรอง หนังสือเดินทาง ฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
หมายเลขโทรศัพท์ : 0-2207-8501, 0-2696-3001 (ภาษาญี่ปุ่น)
หมายเลขโทรสาร : 0-2207-8511
E-mail: ryouji-soumu@bg.mofa.go.jp
แผนกหนังสือรับรอง หนังสือเดินทาง สถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ เชียงใหม่
หมายเลขโทรศัพท์ : 053-203367 (ต่อ 103) (ภาษาญี่ปุ่น)
หมายเลขโทรสาร : 053-203373
 
  	                   		  การขอวีซ่าของคู่สมรสฝ่ายไทยหลังจากจดทะเบียนสมรสแล้ว | 
หลังจากจดทะเบียนสมรสเสร็จสมบูรณ์ตามระเบียบการของทั้งสองประเทศแล้ว คู่สมรสฝ่ายไทยที่ต้องการยื่นขอวีซ่าระยะยาวเพื่อพำนักอยู่ในประเทศญี่ปุ่นนั้น คู่สมรสฝ่ายไทยจะต้องขอใบรับรองสถานภาพการพำนักโดยคู่สมรสชาวญี่ปุ่นต้องยื่นขอเอกสารดังกล่าวจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่อยู่ใกล้กับที่พำนักของตน ณ ประเทศญี่ปุ่น และ เอกสารจำเป็นอื่นๆ ที่ต้องนำมาด้วยเวลายื่นขอวีซ่านั้น ให้ดู “ระเบียบการขอวีซ่าสำหรับผู้ที่ได้รับใบสถานภาพการพำนัก” ประกอบด้วย และกรุณายื่นเอกสารเพื่อขอวีซ่าได้ที่ ศูนย์รับเรื่องยื่นวีซ่าประเทศญี่ปุ่น (JVAC)
ในวันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08:30 น. - 18:00 น. (ไม่มีพักกลางวัน) อาคารวันแปซิฟิกเพลส ชั้น 9 (ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีนานา)  สอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2251-5197-8 และ ศูนย์รับเรื่องยื่นวีซ่าประเทศญี่ปุ่นแห่งที่ 2 (JTB)
 (ศูนย์สีลม สำหรับผู้ที่ทำการนัดหมายล่วงหน้าเท่านั้น) ในวันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08:30 น. - 18:00 น. (ไม่มีพักกลางวัน) ชั้น 10 ตึกญาดา (ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีศาลาแดง ทางออกหมายเลข 3) สอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2632-9801อนึ่ง เกี่ยวกับการยื่นขอใบรับรองสถานภาพการพำนักในประเทศญี่ปุ่นนั้น กรุณาสอบถามโดยตรง ณ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองท้องถิ่นที่ใกล้กับสถานพำนักของคู่สมรสฝ่ายญี่ปุ่น
เมษายน 2559 ฝ่ายกงสุล สถานทูตญี่ปุ่น
แผนที่แผนกกงสุล
