สารในโอกาสครบรอบ 138 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตญี่ปุ่น-ไทย
2025/9/26

วันนี้ วันที่ 26 กันยายน เป็นวันเฉลิมฉลองครบรอบ 138 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตญี่ปุ่น-ไทย ทั้งสองประเทศแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์กันมายาวนานกว่า 600 ปี โดยเริ่มต้นจากการแลกเปลี่ยนระหว่างอาณาจักรริวกิวและอาณาจักรอยุธยา จากนั้นในปี พ.ศ. 2430 ทั้งสองประเทศได้ลงนามใน “ปฏิญญาทางพระราชไมตรีและการพาณิชย์” ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ จนถึงปัจจุบัน ทั้งสองประเทศได้แลกเปลี่ยนความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้น โดยให้ความร่วมมือและสนับสนุนซึ่งกันและกันในหลากหลายด้าน เช่น เศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรม การศึกษา และ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี เป็นต้น ด้วยการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์เช่นนี้ ได้กระชับมิตรภาพระหว่างชาวญี่ปุ่นและชาวไทยให้แน่นแฟ้น อีกทั้งสร้างความเข้าใจอันดีและต่างเคารพในวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน
ในด้านเศรษฐกิจ มีเงินลงทุนโดยตรงจากประเทศญี่ปุ่นในประเทศไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นมูลค่าจำนวนรวมมากถึง 4 ล้านล้านบาท ซึ่งช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเจริญเติบโตในหลากหลายด้าน ในปัจจุบัน ประเทศไทยเป็นหนึ่งในเป้าหมายการลงทุนและฐานการผลิตที่สำคัญอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียสำหรับประเทศญี่ปุ่น ทั้งสองประเทศเป็นหุ้นส่วนที่คอยสนับสนุนซึ่งกันและกันเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ และท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มสูงขึ้น ประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย ต่างกระชับความร่วมมือในการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่ง และส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ นอกจากนี้ ยังร่วมมือในด้านยุทธศาสตร์ เช่น ความร่วมมือด้านยานยนต์และแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า รวมถึง ในด้านพลังงานทดแทน, ด้านสิ่งแวดล้อมและการจัดการขยะ และด้านดิจิทัล ซึ่งความร่วมมือเหล่านี้จะกลายเป็นเสาหลักในการสร้างอนาคตของทั้งสองประเทศ
เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่มีศูนย์กลางในประเทศเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในประเทศไทยเช่นเดียวกัน ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทุกท่าน ประเทศญี่ปุ่น ในฐานะประเทศที่เคยเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติมากมายหลายครั้ง ขอใช้ประสบการณ์เหล่านั้นให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด เพื่อสนับสนุนประชาชนชาวไทยทุกท่านในการบูรณะและฟื้นฟูจากความเสียหายที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ปะทะกันทางทหารที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รวมถึงขอแสดงความห่วงใยไปถึงผู้ได้รับบาดเจ็บและได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ประเทศญี่ปุ่นมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งสองประเทศจะยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงและคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างสองประเทศลงอย่างสันติโดยผ่านการเจรจา ประเทศญี่ปุ่นจะให้ความร่วมมือที่จำเป็นต่อไปอย่างเต็มที่ เพื่อเสถียรภาพความมั่นคงของภูมิภาค
ในด้านการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน ทั้งสองประเทศได้สานสัมพันธ์แห่งมิตรภาพอย่างแน่นแฟ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ ในงาน “โอซาก้าคันไซเอ็กซ์โป 2025” ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา และกำลังจะสิ้นสุดลง ประเทศไทยได้เปิดอาคารจัดแสดงนิทรรศการไทย ภายใต้หัวข้อ “สร้างสรรค์ชีวิตเพื่อความสุขที่ยิ่งใหญ่” โดยนำเสนอเสน่ห์ของวัฒนธรรมไทย และแนวทางการสร้างสังคมที่มีความก้าวหน้า ซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน แบ่งปันความรู้และความคิดเห็น รวมถึงสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันอย่างลึกซึ้งระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยเพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืน
ในช่วงเวลาที่ผ่านพ้นเหตุการณ์สำคัญเหล่านี้ เราได้มองย้อนกลับไปถึงความสัมพันธ์แห่งมิตรภาพอันดีระหว่างญี่ปุ่นและไทยที่มีมาอย่างยาวนาน และจะพยายามต่อไปเพื่อกระชับสายสัมพันธ์แห่งมิตรภพานี้ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ซึ่ง ในปี พ.ศ. 2570 จะครบรอบ 140 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตญี่ปุ่น-ไทย จึงหวังด้วยใจจริงว่า ประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยจะจับมือกันเพื่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สันติภาพในภูมิภาค กระชับสายสัมพันธ์ระหว่างประชาชนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเปิดประตูเข้าสู่ศักราชใหม่ร่วมกัน
ในด้านเศรษฐกิจ มีเงินลงทุนโดยตรงจากประเทศญี่ปุ่นในประเทศไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นมูลค่าจำนวนรวมมากถึง 4 ล้านล้านบาท ซึ่งช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเจริญเติบโตในหลากหลายด้าน ในปัจจุบัน ประเทศไทยเป็นหนึ่งในเป้าหมายการลงทุนและฐานการผลิตที่สำคัญอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียสำหรับประเทศญี่ปุ่น ทั้งสองประเทศเป็นหุ้นส่วนที่คอยสนับสนุนซึ่งกันและกันเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ และท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มสูงขึ้น ประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย ต่างกระชับความร่วมมือในการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่ง และส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ นอกจากนี้ ยังร่วมมือในด้านยุทธศาสตร์ เช่น ความร่วมมือด้านยานยนต์และแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า รวมถึง ในด้านพลังงานทดแทน, ด้านสิ่งแวดล้อมและการจัดการขยะ และด้านดิจิทัล ซึ่งความร่วมมือเหล่านี้จะกลายเป็นเสาหลักในการสร้างอนาคตของทั้งสองประเทศ
เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่มีศูนย์กลางในประเทศเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในประเทศไทยเช่นเดียวกัน ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทุกท่าน ประเทศญี่ปุ่น ในฐานะประเทศที่เคยเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติมากมายหลายครั้ง ขอใช้ประสบการณ์เหล่านั้นให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด เพื่อสนับสนุนประชาชนชาวไทยทุกท่านในการบูรณะและฟื้นฟูจากความเสียหายที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ปะทะกันทางทหารที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รวมถึงขอแสดงความห่วงใยไปถึงผู้ได้รับบาดเจ็บและได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ประเทศญี่ปุ่นมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งสองประเทศจะยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงและคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างสองประเทศลงอย่างสันติโดยผ่านการเจรจา ประเทศญี่ปุ่นจะให้ความร่วมมือที่จำเป็นต่อไปอย่างเต็มที่ เพื่อเสถียรภาพความมั่นคงของภูมิภาค
ในด้านการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน ทั้งสองประเทศได้สานสัมพันธ์แห่งมิตรภาพอย่างแน่นแฟ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ ในงาน “โอซาก้าคันไซเอ็กซ์โป 2025” ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา และกำลังจะสิ้นสุดลง ประเทศไทยได้เปิดอาคารจัดแสดงนิทรรศการไทย ภายใต้หัวข้อ “สร้างสรรค์ชีวิตเพื่อความสุขที่ยิ่งใหญ่” โดยนำเสนอเสน่ห์ของวัฒนธรรมไทย และแนวทางการสร้างสังคมที่มีความก้าวหน้า ซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน แบ่งปันความรู้และความคิดเห็น รวมถึงสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันอย่างลึกซึ้งระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยเพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืน
ในช่วงเวลาที่ผ่านพ้นเหตุการณ์สำคัญเหล่านี้ เราได้มองย้อนกลับไปถึงความสัมพันธ์แห่งมิตรภาพอันดีระหว่างญี่ปุ่นและไทยที่มีมาอย่างยาวนาน และจะพยายามต่อไปเพื่อกระชับสายสัมพันธ์แห่งมิตรภพานี้ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ซึ่ง ในปี พ.ศ. 2570 จะครบรอบ 140 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตญี่ปุ่น-ไทย จึงหวังด้วยใจจริงว่า ประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยจะจับมือกันเพื่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สันติภาพในภูมิภาค กระชับสายสัมพันธ์ระหว่างประชาชนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเปิดประตูเข้าสู่ศักราชใหม่ร่วมกัน
มาซาโตะ โอตากะ
เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งญี่ปุ่น ประจำราชอาณาจักรไทย
เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งญี่ปุ่น ประจำราชอาณาจักรไทย
