รัฐบาลญี่ปุ่นให้การสนับสนุนเงินทุนสำหรับโครงการ “The Project for providing an ambulance and construction of medical waste and general waste storage at Medical Correctional Institution in Bangkok”
2017/12/13
รัฐบาลญี่ปุ่นให้การสนับสนุนเงินทุนจำนวนทั้งสิ้น 2,867,200 บาทแก่โครงการ “The Project for providing an ambulance and construction of medical waste and general waste storage at Medical Correctional Institution in Bangkok” ผ่านความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์ (จีจีพี)
โดยมีพิธีลงนามข้อตกลงเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2560 ระหว่าง ฯพณฯ นาย ชิโร ซะโดะชิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และนายแพทย์ วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ โดยมีคณะเจ้าหน้าที่ของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ร่วมในพิธี ณ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนในครั้งนี้ เป็นโรงพยาบาลรัฐระดับทุติยภูมิ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2518 ให้บริการผู้ต้องขังที่อาศัยอยู่เรือนจำหรือทัณฑสถาน 7 แห่งในเขตกรุงเทพและบริเวณใกล้เคียง ปัจจุบัน เรือนจำหรือทัณฑสถาน 7 แห่งนั้นมีจำนวนผู้ต้องขังประมาณ 3 หมื่น 3 พันคน จำนวนผู้รับบริการปี 2559 ประมาณ 1 หมื่นคน
โรงพยาบาลมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ต้องรับการรักษาที่สถานพยาบาลทั่วไปซึ่งอยู่นอกทัณฑสถานโรงพยาบาล เนื่องจากทางทัณฑสถานโรงพยาบาลไม่มีศัลยแพทย์ประจำ รวมถึงผู้ป่วยมีสถานะต่างจากบุคคลทั่วไป จึงมีระเบียบให้ผู้ป่วยเดินทางไปรับการรักษาพยาบาลข้างนอกด้วยรถพยาบาลเท่านั้น ทำให้สถิติจำนวนครั้งในการใช้รถพยาบาลเพิ่มขึ้นประมาณ 1,500 ครั้งต่อปี ทว่าทัณฑสถานโรงพยาบาลมีรถพยาบาลเพียง 2 คัน ประสบปัญหารถไม่เพียงพออยู่เป็นประจำ และคันหนึ่งมีอายุการใช้งานมากกว่า 13 ปี สภาพทรุดโทรมเสียหายบ่อยครั้งทำให้เกิดความล่าช้าในเมื่อต้องให้บริการพร้อมกันหลายกรณี นับว่าสถานการณ์การให้บริการรถฉุกเฉินในปัจจุบันนั้นไม่ปลอดภัย ทางทัณฑสถานโรงพยาบาลจึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องจัดหารถพยาบาลคันใหม่
อนึ่ง สถาบันทางการแพทย์มีข้อบังคับในการขนย้ายและกำจัดขยะมูลฝอยติดเชื้อ เนื่องจากขยะประเภทดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่เชื้อภายในโรงพยาบาลและส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่โรงพักมูลฝอยติดเชื้อของทัณฑสถานโรงพยาบาลตั้งอยู่ภายนอกอาคาร ผนังของโรงพักฯเป็นลวดตาข่ายที่น้ำฝนเข้ามาได้ ทำให้ง่ายต่อการสัมผัสร่างกายมนุษย์ และเสี่ยงต่อการติดเชื้อจุลชีพก่อโรคจากมูลฝอยติดเชื้อที่เน่าเสีย นอกจากนี้ ยังไม่มีสถานที่จัดเก็บขยะมูลฝอยทั่วไป มีเพียงถังขยะจัดไว้ภายนอกซึ่งเปิดเผยอากาศรอบนอกหรือโดนฝน เกิดแมลง ส่งกลิ่นเหม็นและมีความเสี่ยงต่อสุขอนามัยของพนักงานและผู้ป่วย
ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว รัฐบาลญี่ปุ่นพิจารณาว่าการจัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินจำนวน 1 คันและโรงพักมูลฝอยติดเชื้อและมูลฝอยทั่วไป 1 หลัง จะปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางการแพทย์ในโรงพยาบาล และช่วยเสริมความปลอดภัยของพนักงานและผู้ป่วย จึงได้ตัดสินใจให้การสนับสนุนแก่โครงการผ่านความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์ (จีจีพี) รัฐบาลญี่ปุ่นคาดหวังว่าการดำเนินโครงการในครั้งนี้จะช่วยเสริมความพร้อมแก่ระบบการกำจัดมูลฝอยและระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ยกระดับคุณภาพของบริการทางการแพทย์ และช่วยสร้างเสริมความปลอดภัยในชีวิต
รัฐบาลญี่ปุ่นยินดีให้การสนับสนุนโครงการที่ส่งเสริมและพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์โดยผ่านความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์ (จีจีพี) ต่อไป
แผนกเศรษฐกิจ สถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
เลขที่ 177 ถนนวิทยุ ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
โทรศัพท์ 0-2696-3000, 0-2207-8500
โทรสาร 0-2207-8517
โดยมีพิธีลงนามข้อตกลงเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2560 ระหว่าง ฯพณฯ นาย ชิโร ซะโดะชิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และนายแพทย์ วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ โดยมีคณะเจ้าหน้าที่ของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ร่วมในพิธี ณ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนในครั้งนี้ เป็นโรงพยาบาลรัฐระดับทุติยภูมิ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2518 ให้บริการผู้ต้องขังที่อาศัยอยู่เรือนจำหรือทัณฑสถาน 7 แห่งในเขตกรุงเทพและบริเวณใกล้เคียง ปัจจุบัน เรือนจำหรือทัณฑสถาน 7 แห่งนั้นมีจำนวนผู้ต้องขังประมาณ 3 หมื่น 3 พันคน จำนวนผู้รับบริการปี 2559 ประมาณ 1 หมื่นคน
โรงพยาบาลมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ต้องรับการรักษาที่สถานพยาบาลทั่วไปซึ่งอยู่นอกทัณฑสถานโรงพยาบาล เนื่องจากทางทัณฑสถานโรงพยาบาลไม่มีศัลยแพทย์ประจำ รวมถึงผู้ป่วยมีสถานะต่างจากบุคคลทั่วไป จึงมีระเบียบให้ผู้ป่วยเดินทางไปรับการรักษาพยาบาลข้างนอกด้วยรถพยาบาลเท่านั้น ทำให้สถิติจำนวนครั้งในการใช้รถพยาบาลเพิ่มขึ้นประมาณ 1,500 ครั้งต่อปี ทว่าทัณฑสถานโรงพยาบาลมีรถพยาบาลเพียง 2 คัน ประสบปัญหารถไม่เพียงพออยู่เป็นประจำ และคันหนึ่งมีอายุการใช้งานมากกว่า 13 ปี สภาพทรุดโทรมเสียหายบ่อยครั้งทำให้เกิดความล่าช้าในเมื่อต้องให้บริการพร้อมกันหลายกรณี นับว่าสถานการณ์การให้บริการรถฉุกเฉินในปัจจุบันนั้นไม่ปลอดภัย ทางทัณฑสถานโรงพยาบาลจึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องจัดหารถพยาบาลคันใหม่
อนึ่ง สถาบันทางการแพทย์มีข้อบังคับในการขนย้ายและกำจัดขยะมูลฝอยติดเชื้อ เนื่องจากขยะประเภทดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่เชื้อภายในโรงพยาบาลและส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่โรงพักมูลฝอยติดเชื้อของทัณฑสถานโรงพยาบาลตั้งอยู่ภายนอกอาคาร ผนังของโรงพักฯเป็นลวดตาข่ายที่น้ำฝนเข้ามาได้ ทำให้ง่ายต่อการสัมผัสร่างกายมนุษย์ และเสี่ยงต่อการติดเชื้อจุลชีพก่อโรคจากมูลฝอยติดเชื้อที่เน่าเสีย นอกจากนี้ ยังไม่มีสถานที่จัดเก็บขยะมูลฝอยทั่วไป มีเพียงถังขยะจัดไว้ภายนอกซึ่งเปิดเผยอากาศรอบนอกหรือโดนฝน เกิดแมลง ส่งกลิ่นเหม็นและมีความเสี่ยงต่อสุขอนามัยของพนักงานและผู้ป่วย
ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว รัฐบาลญี่ปุ่นพิจารณาว่าการจัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินจำนวน 1 คันและโรงพักมูลฝอยติดเชื้อและมูลฝอยทั่วไป 1 หลัง จะปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางการแพทย์ในโรงพยาบาล และช่วยเสริมความปลอดภัยของพนักงานและผู้ป่วย จึงได้ตัดสินใจให้การสนับสนุนแก่โครงการผ่านความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์ (จีจีพี) รัฐบาลญี่ปุ่นคาดหวังว่าการดำเนินโครงการในครั้งนี้จะช่วยเสริมความพร้อมแก่ระบบการกำจัดมูลฝอยและระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ยกระดับคุณภาพของบริการทางการแพทย์ และช่วยสร้างเสริมความปลอดภัยในชีวิต
รัฐบาลญี่ปุ่นยินดีให้การสนับสนุนโครงการที่ส่งเสริมและพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์โดยผ่านความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์ (จีจีพี) ต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์แผนกเศรษฐกิจ สถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
เลขที่ 177 ถนนวิทยุ ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
โทรศัพท์ 0-2696-3000, 0-2207-8500
โทรสาร 0-2207-8517