รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความร่วมมือสนับสนุนโครงการ “The Project for Dormitory Construction for Teacher Training aimed at Capacity Building of non-Thai Students”
2019/11/26

รัฐบาลญี่ปุ่นสนับสนุนเงินทุนจำนวนทั้งสิ้น 3,325,000 บาทแก่โครงการ “The Project for Dormitory Construction for Teacher Training aimed at Capacity Building of non-Thai Students” ผ่านความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์ (จีจีพี)
พิธีส่งมอบโครงการจัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ณ อาคารสำหรับฝึกอบรมโดยมูลนิธิสร้างสรรค์ชาติพันธุ์อาเซียน ในการนี้ นาย ปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี นางพอรู้รู่ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิสร้างสรรค์ชาติพันธุ์อาเซียน พร้อมด้วย นาย โนโบรุ เซคิกุชิ อัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ให้เกียรติเข้าร่วมในพิธีดังกล่าวพร้อมผู้เกี่ยวข้อง
ขอบชายแดนของประเทศไทยและสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา มีกลุ่มชาติพันธุ์ (ชนเผ่ากะเหรี่ยง, ชนเผ่าม้ง) ที่นอกเหนือจากคนไทยอาศัยอยู่ ความขัดแย้งของชนกลุ่มน้อยในเมียนมาทำให้กลุ่มชาติพันธุ์เหล่านี้โดยเฉพาะชาวกะเหรี่ยง ไม่ได้รับการศึกษาที่พอเพียงจากประเทศเมียนมา ทำให้ประสบสถานการณ์ลำบากในการประกอบอาชีพเมื่อถึงวัยทำงาน อีกทั้งทำให้บุตรหลานไม่ได้รับการศึกษาไปด้วย เนื่องจากความยากจน เป็นปัญหาลูกโซ่ตามมา ทำให้ต้องเข้ามาในประเทศไทยในฐานะแรงงานข้ามชาติ
ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ มูลนิธิสร้างสรรค์ชาติพันธุ์อาเซียนซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนในครั้งนี้ เป็นองค์กรที่ฝึกอบรม และให้ความรู้เพื่อสามารถนำไปประกอบอาชีพคุณครูโรงเรียนประถม โดยมูลนิธิจะรับสมัครเยาวชนอายุ18-19ปีที่อาศัยอยู่ใกล้ชายแดนเมียนมาเข้ารับการฝึกอบรม รัฐบาลญี่ปุ่นได้สนับสนุนการก่อสร้างสถานที่ฝึกอบรมในโครงการ “The Project for Vocational Training for Promoting Basic Education in Vulnerable Communities on the Border”ในปีพ.ศ. 2556 ซึ่งมูลนิธิดังกล่าวดำเนินโครงการอย่างราบรื่นหลังจากได้รับการสนับสนุน
ปัจจุบันมูลนิธิดำเนินการฝึกอบรมการสอนระยะสั้นโดยให้นักเรียนเข้าเรียนและไป-กลับ และดำเนินการฝึกอบรมการสอนระยะยาวเป็นเวลา 2 ปี โดยให้ชาวเมียนมาเข้าประเทศไทยได้ชั่วคราว และให้นักเรียนเข้าเรียนพร้อมทั้งพักอาศัยอยู่ที่หอพักของมูลนิธิ แต่ทว่าสภาพของหอพักที่ทรุดโทรม จึงต้องลดจำนวนผู้เข้าพักที่รับการฝึกอบรมเหลือเพียง 18 คนในปีนี้ เนื่องมาจากหลังคาชำรุดและมีน้ำรั่ว เมื่อเทียบกับปีพ.ศ.2556 ที่รับได้ถึง30คน เพื่อที่ขยายโครงการฝึกอบรมการสอนระยะยาวที่มีประสิทธิภาพ การสร้างหอพักใหม่จึงเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่เนื่องจากนักเรียนของมูลนิธิเป็นเยาวชนที่มาจากพื้นที่ยากจน ไม่มีรายได้ที่เพียงพอ มูลนิธิดังกล่าวจึงเก็บแค่ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำสำหรับการเข้ามาฝึกอบรมเท่านั้น ทำให้มูลนิธิไม่สามารถหาค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงที่พักได้ ด้วยเหตุนี้ มูลนิธิจึงได้ขอการสนับสนุนผ่านโครงการจีจีพี
ปัญหาชนกลุ่มน้อยของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา มีความเกี่ยวข้องกับปัญหาค้ามนุษย์,แรงงานข้ามชาติ และปัญหาผู้อพยพในประเทศไทย อีกทั้งปัญหาการศึกษาของบุตรของแรงงานข้ามชาตินับเป็นปัญหาสังคมไทย ซึ่งรัฐบาลไทยกำลังดำเนินการต่อรองกับรัฐบาลเมียนมาเกี่ยวกับการกลับสู่ภูมิลำเนาเดิมของผู้ลี้ภัย หรือการสนับสนุนการลงทะเบียนแรงงานข้ามชาติถูกกฏหมาย ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ ถือได้ว่าการสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวกันโดยตรงกับองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร(NGO)ดังกล่าว จะเป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นเล็งเห็นถึงความสำคัญในการดำเนินกิจกรรมผ่านโครงการจีจีพีและได้ตกลงให้การสนับสนุนโครงการนี้
รัฐบาลญี่ปุ่นยินดีให้การสนับสนุนโครงการที่ส่งเสริมและพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์โดยผ่านความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์ (จีจีพี) ต่อไป
แผนกเศรษฐกิจ สถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
เลขที่ 177 ถนนวิทยุ ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
โทรศัพท์ 0-2696-3000, 0-2207-8500
โทรสาร 0-2207-8517
พิธีส่งมอบโครงการจัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ณ อาคารสำหรับฝึกอบรมโดยมูลนิธิสร้างสรรค์ชาติพันธุ์อาเซียน ในการนี้ นาย ปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี นางพอรู้รู่ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิสร้างสรรค์ชาติพันธุ์อาเซียน พร้อมด้วย นาย โนโบรุ เซคิกุชิ อัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ให้เกียรติเข้าร่วมในพิธีดังกล่าวพร้อมผู้เกี่ยวข้อง
ขอบชายแดนของประเทศไทยและสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา มีกลุ่มชาติพันธุ์ (ชนเผ่ากะเหรี่ยง, ชนเผ่าม้ง) ที่นอกเหนือจากคนไทยอาศัยอยู่ ความขัดแย้งของชนกลุ่มน้อยในเมียนมาทำให้กลุ่มชาติพันธุ์เหล่านี้โดยเฉพาะชาวกะเหรี่ยง ไม่ได้รับการศึกษาที่พอเพียงจากประเทศเมียนมา ทำให้ประสบสถานการณ์ลำบากในการประกอบอาชีพเมื่อถึงวัยทำงาน อีกทั้งทำให้บุตรหลานไม่ได้รับการศึกษาไปด้วย เนื่องจากความยากจน เป็นปัญหาลูกโซ่ตามมา ทำให้ต้องเข้ามาในประเทศไทยในฐานะแรงงานข้ามชาติ
ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ มูลนิธิสร้างสรรค์ชาติพันธุ์อาเซียนซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนในครั้งนี้ เป็นองค์กรที่ฝึกอบรม และให้ความรู้เพื่อสามารถนำไปประกอบอาชีพคุณครูโรงเรียนประถม โดยมูลนิธิจะรับสมัครเยาวชนอายุ18-19ปีที่อาศัยอยู่ใกล้ชายแดนเมียนมาเข้ารับการฝึกอบรม รัฐบาลญี่ปุ่นได้สนับสนุนการก่อสร้างสถานที่ฝึกอบรมในโครงการ “The Project for Vocational Training for Promoting Basic Education in Vulnerable Communities on the Border”ในปีพ.ศ. 2556 ซึ่งมูลนิธิดังกล่าวดำเนินโครงการอย่างราบรื่นหลังจากได้รับการสนับสนุน
ปัจจุบันมูลนิธิดำเนินการฝึกอบรมการสอนระยะสั้นโดยให้นักเรียนเข้าเรียนและไป-กลับ และดำเนินการฝึกอบรมการสอนระยะยาวเป็นเวลา 2 ปี โดยให้ชาวเมียนมาเข้าประเทศไทยได้ชั่วคราว และให้นักเรียนเข้าเรียนพร้อมทั้งพักอาศัยอยู่ที่หอพักของมูลนิธิ แต่ทว่าสภาพของหอพักที่ทรุดโทรม จึงต้องลดจำนวนผู้เข้าพักที่รับการฝึกอบรมเหลือเพียง 18 คนในปีนี้ เนื่องมาจากหลังคาชำรุดและมีน้ำรั่ว เมื่อเทียบกับปีพ.ศ.2556 ที่รับได้ถึง30คน เพื่อที่ขยายโครงการฝึกอบรมการสอนระยะยาวที่มีประสิทธิภาพ การสร้างหอพักใหม่จึงเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่เนื่องจากนักเรียนของมูลนิธิเป็นเยาวชนที่มาจากพื้นที่ยากจน ไม่มีรายได้ที่เพียงพอ มูลนิธิดังกล่าวจึงเก็บแค่ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำสำหรับการเข้ามาฝึกอบรมเท่านั้น ทำให้มูลนิธิไม่สามารถหาค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงที่พักได้ ด้วยเหตุนี้ มูลนิธิจึงได้ขอการสนับสนุนผ่านโครงการจีจีพี
ปัญหาชนกลุ่มน้อยของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา มีความเกี่ยวข้องกับปัญหาค้ามนุษย์,แรงงานข้ามชาติ และปัญหาผู้อพยพในประเทศไทย อีกทั้งปัญหาการศึกษาของบุตรของแรงงานข้ามชาตินับเป็นปัญหาสังคมไทย ซึ่งรัฐบาลไทยกำลังดำเนินการต่อรองกับรัฐบาลเมียนมาเกี่ยวกับการกลับสู่ภูมิลำเนาเดิมของผู้ลี้ภัย หรือการสนับสนุนการลงทะเบียนแรงงานข้ามชาติถูกกฏหมาย ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ ถือได้ว่าการสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวกันโดยตรงกับองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร(NGO)ดังกล่าว จะเป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นเล็งเห็นถึงความสำคัญในการดำเนินกิจกรรมผ่านโครงการจีจีพีและได้ตกลงให้การสนับสนุนโครงการนี้
รัฐบาลญี่ปุ่นยินดีให้การสนับสนุนโครงการที่ส่งเสริมและพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์โดยผ่านความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์ (จีจีพี) ต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์แผนกเศรษฐกิจ สถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
เลขที่ 177 ถนนวิทยุ ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
โทรศัพท์ 0-2696-3000, 0-2207-8500
โทรสาร 0-2207-8517