รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความร่วมมือสนับสนุนโครงการ “The Project for Constructing an Elderly Support Center at Utapao Sub- district Administrative Organization in Chainat Province”
2020/11/16


รัฐบาลญี่ปุ่นสนับสนุนเงินทุนจำนวนทั้งสิ้น 2,810,000 บาทแก่โครงการ “The Project for Constructing an Elderly Support Center at Utapao Sub- district Administrative Organization in Chainat Province” ผ่านความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์ (จีจีพี) โดยมีพิธีลงนามข้อตกลงเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ระหว่าง นายนะชิดะ คะสุยะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย และ นายพิษณุพล ช่างประดับ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอู่ตะเภา ณ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
ตำบลอู่ตะเภา อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท ห่างจาก กรุงเทพฯ ประมาณ 200 กิโลเมตร และมีประชากร 2,911 คน สัดส่วนของผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีตามที่รัฐบาลไทยนิยามไว้ว่าเป็น “ผู้สูงอายุ”นั้นมี 21% จากจำนวนประชากรทั้งหมด จึงนับได้ว่าเป็นพื้นที่ที่สังคมสูงวัยเติบโตเร็วกว่าพื้นที่อื่นในประเทศไทย เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของประเทศซึ่งอยู่ที่ 18%
เนื่องจากประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเร็วที่สุดในทวีปเอเชีย การส่งเสริมผู้สูงอายุจึงเป็นภารกิจที่สำคัญและราชการบริหารส่วนท้องถิ่นได้ดำเนินการขยายการส่งเสริมผู้สูงอายุในท้องที่ของตน ก่อนหน้านี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลอู่ตะเภาเองได้ดำเนินการส่งเสริมผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง แต่ทว่าผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงเยอะขึ้นอย่างรวดเร็ว ทางองค์กรจึงมีความกังวลเรื่องเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลและงบประมาณจะไม่เพียงพอ ดังนั้น ทางองค์การบริหารส่วนตำบลอู่ตะเภาจึงได้เปิดโรงเรียนผู้สูงอายุเพื่อเสริมสร้างประชากรอายุมากกว่า 55 ปีที่ไม่ได้อยู่ในภาวะพึ่งพิงในปีพ.ศ. 2561 โดยให้บริการด้านการเรียนหนังสือ, เรียนรู้ด้านสุขภาพ, ออกกำลังกาย, นันทนาการ, ฝึกอาชีพ, เข้าร่วมกิจกรรมในชุมชน เป็นต้น จากการเปิดโรงเรียนแห่งนี้ ทำให้เห็นว่าผู้เรียนมีสุขภาพกายใจดีขึ้น แต่องค์การบริหารส่วนตำบลอู่ตะเภาไม่มีอาคารขององค์กรเองในการส่งเสริมกิจกรรมผู้สูงอายุ โดยในการดำเนินกิจกรรมที่ผ่านมา ทางองค์กรได้ยืมศาลาการเปรียญจากวัดในชุมชนใช้เพื่อเป็นโรงเรียนผู้สูงอายุ ทว่าหากมีงานวัดจะไม่สามารถใช้ศาลาได้และมีจำกัดจำนวนครั้งในการขอยืมพื้นที่ นอกจากนี้ เนื่องจากศาลาที่ใช้มาไม่มีกำแพงจึงไม่สามารถใช้ได้ในเวลาอากาศร้อนมาก หรือฝนตกหนัก อีกทั้งศาลาเป็นแบบเก่าจึงมีห้องน้ำที่มีอ่างสำหรับตักน้ำและระยะห่างของขั้นที่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางร่างกาย ดังนั้น จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่องค์การบริหารส่วนตำบลอู่ตะเภาจะต้องสร้างศูนย์ส่งเสริมผู้สูงอายุ
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้รับใบสมัครจากองค์การบริหารส่วนตำบลอู่ตะเภา จึงได้สนับสนุนเงินทุนผ่านโครงการจีจีพี สำหรับโครงการก่อสร้างศูนย์ส่งเสริมผู้สูงอายุ 1 หลัง เพื่อให้ผู้สูงอายุมีอายุยืนยาว และสามารถใช้ชีวิตพึ่งพาตนเองได้ และลดภาระในการดูแลผู้สูงอายุในพื้นที่และรัฐบาลญี่ปุ่นหวังว่าการสนับสนุนนี้จะช่วยชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นได้
รัฐบาลญี่ปุ่นยินดีให้การสนับสนุนโครงการที่ส่งเสริมและพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์โดยผ่านความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์ (จีจีพี) ต่อไป
ตำบลอู่ตะเภา อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท ห่างจาก กรุงเทพฯ ประมาณ 200 กิโลเมตร และมีประชากร 2,911 คน สัดส่วนของผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีตามที่รัฐบาลไทยนิยามไว้ว่าเป็น “ผู้สูงอายุ”นั้นมี 21% จากจำนวนประชากรทั้งหมด จึงนับได้ว่าเป็นพื้นที่ที่สังคมสูงวัยเติบโตเร็วกว่าพื้นที่อื่นในประเทศไทย เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของประเทศซึ่งอยู่ที่ 18%
เนื่องจากประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเร็วที่สุดในทวีปเอเชีย การส่งเสริมผู้สูงอายุจึงเป็นภารกิจที่สำคัญและราชการบริหารส่วนท้องถิ่นได้ดำเนินการขยายการส่งเสริมผู้สูงอายุในท้องที่ของตน ก่อนหน้านี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลอู่ตะเภาเองได้ดำเนินการส่งเสริมผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง แต่ทว่าผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงเยอะขึ้นอย่างรวดเร็ว ทางองค์กรจึงมีความกังวลเรื่องเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลและงบประมาณจะไม่เพียงพอ ดังนั้น ทางองค์การบริหารส่วนตำบลอู่ตะเภาจึงได้เปิดโรงเรียนผู้สูงอายุเพื่อเสริมสร้างประชากรอายุมากกว่า 55 ปีที่ไม่ได้อยู่ในภาวะพึ่งพิงในปีพ.ศ. 2561 โดยให้บริการด้านการเรียนหนังสือ, เรียนรู้ด้านสุขภาพ, ออกกำลังกาย, นันทนาการ, ฝึกอาชีพ, เข้าร่วมกิจกรรมในชุมชน เป็นต้น จากการเปิดโรงเรียนแห่งนี้ ทำให้เห็นว่าผู้เรียนมีสุขภาพกายใจดีขึ้น แต่องค์การบริหารส่วนตำบลอู่ตะเภาไม่มีอาคารขององค์กรเองในการส่งเสริมกิจกรรมผู้สูงอายุ โดยในการดำเนินกิจกรรมที่ผ่านมา ทางองค์กรได้ยืมศาลาการเปรียญจากวัดในชุมชนใช้เพื่อเป็นโรงเรียนผู้สูงอายุ ทว่าหากมีงานวัดจะไม่สามารถใช้ศาลาได้และมีจำกัดจำนวนครั้งในการขอยืมพื้นที่ นอกจากนี้ เนื่องจากศาลาที่ใช้มาไม่มีกำแพงจึงไม่สามารถใช้ได้ในเวลาอากาศร้อนมาก หรือฝนตกหนัก อีกทั้งศาลาเป็นแบบเก่าจึงมีห้องน้ำที่มีอ่างสำหรับตักน้ำและระยะห่างของขั้นที่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางร่างกาย ดังนั้น จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่องค์การบริหารส่วนตำบลอู่ตะเภาจะต้องสร้างศูนย์ส่งเสริมผู้สูงอายุ
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้รับใบสมัครจากองค์การบริหารส่วนตำบลอู่ตะเภา จึงได้สนับสนุนเงินทุนผ่านโครงการจีจีพี สำหรับโครงการก่อสร้างศูนย์ส่งเสริมผู้สูงอายุ 1 หลัง เพื่อให้ผู้สูงอายุมีอายุยืนยาว และสามารถใช้ชีวิตพึ่งพาตนเองได้ และลดภาระในการดูแลผู้สูงอายุในพื้นที่และรัฐบาลญี่ปุ่นหวังว่าการสนับสนุนนี้จะช่วยชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นได้
รัฐบาลญี่ปุ่นยินดีให้การสนับสนุนโครงการที่ส่งเสริมและพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์โดยผ่านความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์ (จีจีพี) ต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์
แผนกเศรษฐกิจ สถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
เลขที่ 177 ถนนวิทยุ ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
โทรศัพท์ 0-2696-3000, 0-2207-8500
โทรสาร 0-2207-8517