สารจากนายนะชิดะ คะสุยะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตแห่งญี่ปุ่น

2021/2/23

        ข้าพเจ้าขอน้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตแห่งญี่ปุ่น ซึ่งเสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2562 (รัชสมัยเรวะที่ 1) ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 61 พรรษาในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564

        วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระจักรพรรดิ ถือเป็นวันชาติญี่ปุ่น (National Day) สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นได้จัดงานเฉลิมพระเกียรติฯโดยเชิญแขกผู้มีเกียรติมาร่วมงานเป็นประจำทุกปี ซึ่งในปีที่แล้วมีผู้เข้าร่วมงานมากถึง 1,100 คน อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าเสียดายที่การจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯในปีนี้ต้องเลื่อนออกไป เนื่องด้วยผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

        ข้าพเจ้าขอขอบคุณประชาชนชาวไทยและรัฐบาลไทยที่ต่างมีความอดทนและอุตสาหะพยายาม จนสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้ และช่วยให้ชาวญี่ปุ่นที่พำนักอยู่ในประเทศไทยสามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัย ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่ทำให้ทั่วทั้งโลกตกอยู่ภายใต้ความยากลำบากมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปีที่แล้ว

        นับตั้งแต่ข้าพเจ้าได้รับตำแหน่งเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ข้าพเจ้าได้เพียรพยายามร่วมไปกับทุกท่านในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ญี่ปุ่น-ไทยมาโดยตลอด จนได้รับรู้ถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นในทุกด้านของทั้งสองประเทศ ประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยมีประวัติศาสตร์การแลกเปลี่ยนแห่งสัมพันธไมตรีมาอย่างยาวนานถึง 600 ปี ย้อนไปได้ถึงสมัยสุโขทัยและกรุงศรีอยุธยา โดยทั้งสองประเทศต่างก็มีจุดร่วมกันอยู่หลายประการ เช่น พระราชวงศ์ญี่ปุ่นและไทย และการให้ความสำคัญต่อค่านิยมทางสังคมและประเพณี เป็นต้น ซึ่งจุดร่วมเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ช่วยสร้างเสริมความสัมพันธ์ของสองประเทศให้แน่นแฟ้นสืบเนื่องมาได้อย่างยาวนานโดยไม่หวั่นไหวแม้ในภาวะวิกฤตการณ์จากไวรัสโคโรนา 2019

        ปัจจุบัน มีชาวญี่ปุ่นที่ได้แจ้งการพำนักอยู่ในประเทศไทยประมาณ 80,000 คน โดยมีผู้พำนักอยู่ในกรุงเทพฯมากกว่า 50,000 คน ซึ่งมีอยู่ไม่กี่แห่งในโลกที่มีจำนวนประชากรชาวญี่ปุ่นพำนักอยู่มากเท่านี้ นอกจากนี้เมื่อสองปีก่อน มีผู้เดินทางจากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทยมากถึง 1,800,00 คน  และมีผู้เดินทางจากประเทศไทยไปเยือนประเทศญี่ปุ่นมากถึง 1,200,000 คน โดยทั้งสองกรณีนี้ถือได้ว่าเป็นจำนวนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ แม้จะเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ในปีที่ผ่านมามีข้อจำกัดในการเดินทางระหว่างสองประเทศอย่างเข้มงวด แต่ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าเมื่อถึงวันที่เปิดให้มีการเดินทางได้อย่างเสรีอีกครั้ง จะมีผู้เดินทางเพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมจนเป็นประวัติการณ์แน่นอน

        สุดท้ายนี้ ข้าพเจ้าขอน้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตแห่งญี่ปุ่น เนื่องในโอกาสทรงมีพระชนมพรรษาครบ 61 พรรษา และขออำนวยพรให้ทุกท่านสามารถก้าวข้ามความยากลำบากไปได้ด้วยกัน ร่วมสานสายสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้ยิ่งวัฒนาสถาพรสืบไป