รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความร่วมมือสนับสนุนโครงการ “Livelihood improvement through mangrove plantation project for disaster risk reduction of vulnerable citizens in coastal and islands region of Ranong province”
2021/3/12

รัฐบาลญี่ปุ่นสนับสนุนโครงการ Livelihood improvement through mangrove plantation project for disaster risk reduction of vulnerable citizens in coastal and islands region of Ranong province ผ่านความร่วมมือแบบให้เปล่ากับองค์กรอิสระไม่แสวงหากำไร (เอ็นจีโอ) ของประเทศญี่ปุ่น
โดยมีพิธีลงนามข้อตกลงเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2564 ระหว่าง ฯพณฯ นายนะชิดะ คะสุยะเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และ นางสาวโทโมมิ คาสึกะ ตัวแทนองค์กร ออยสก้า ประจำประเทศไทย ณ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
อัตราส่วนพื้นที่ป่าในประเทศไทยที่เคยมีถึง 53% ในปี พ.ศ. 2504 นั้น กล่าวกันว่าในปัจจุบันนี้ลดลงเหลือเพียง 31% ผลจากการลดลงของป่าไม้ได้ก่อให้เกิดภัยธรรมชาติในระยะหลัง เช่น ดินสไลด์, ดินพังทลาย, น้ำท่วม เป็นต้น สาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งของการลดลงของพื้นที่ป่าคือ การตัดไม้เพื่อใช้พื้นที่อย่างผิดกฎหมาย หากไม่สามารถปลูกป่า หรือ ควบคุมป่าไม้ และขจัดความยากจนที่เป็นสาเหตุเบื้องหลังนั้น จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
ทางองค์กรออยสก้าได้ทำกิจกรรมปลูกป่าชายเลนมานาน 20 ปี และประสบความสำเร็จ แต่ยังมีบางพื้นที่ที่ยังเข้าไม่ถึง และมีประเด็นใหญ่อื่นๆที่เกิดขึ้น เช่น เกิดความเสียหายจากน้ำทะเลที่ท่วมเข้าไปในพื้นที่ชุมชน กิจกรรมทางประมงลดลงจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงหรือขยะทางทะเล รวมทั้งความยากจนจากผลเหล่านั้นซึ่งยังคงเป็นปัญหาใหญ่อยู่
ในการสนับสนุนครั้งนี้ จะฟื้นฟูและปลูกป่าชายเลนขนาดพื้นที่ 32 เฮกเตอร์ เป็นการมุ่งหวังในการมีส่วนร่วมเพื่อป้องกันภัยพิบัติและสร้างประโยชน์ไปพร้อมๆกันกับการพัฒนาอุตสาหกรรมเดิม เช่น การประมงโดยดำเนินการปรับปรุงสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสนับสนุนการศึกษาหรือการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ และการจัดการปัญหาขยะทางทะเล ทางรัฐบาลญี่ปุ่นจึงได้สนับสนุนเงินจำนวน 19,199,396 บาท
ในการลงนามครั้งนี้ นางสาวโทโมมิ ตัวแทนองค์กรออยสก้า ประจำประเทศไทย ได้แสดงความตั้งใจที่จะเริ่มโครงในวันที่ 11 มีนาคม ซึ่งเป็นวันครบรอบ 10 ปี ของเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ในภูมิภาคโทโฮกุของประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นนิมิตหมายอันดีในการเริ่มโครงการปลูกป่าชายเลนนี้เพื่อช่วยการดำรงอยู่ของผู้คน
โดยมีพิธีลงนามข้อตกลงเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2564 ระหว่าง ฯพณฯ นายนะชิดะ คะสุยะเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และ นางสาวโทโมมิ คาสึกะ ตัวแทนองค์กร ออยสก้า ประจำประเทศไทย ณ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
อัตราส่วนพื้นที่ป่าในประเทศไทยที่เคยมีถึง 53% ในปี พ.ศ. 2504 นั้น กล่าวกันว่าในปัจจุบันนี้ลดลงเหลือเพียง 31% ผลจากการลดลงของป่าไม้ได้ก่อให้เกิดภัยธรรมชาติในระยะหลัง เช่น ดินสไลด์, ดินพังทลาย, น้ำท่วม เป็นต้น สาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งของการลดลงของพื้นที่ป่าคือ การตัดไม้เพื่อใช้พื้นที่อย่างผิดกฎหมาย หากไม่สามารถปลูกป่า หรือ ควบคุมป่าไม้ และขจัดความยากจนที่เป็นสาเหตุเบื้องหลังนั้น จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
ทางองค์กรออยสก้าได้ทำกิจกรรมปลูกป่าชายเลนมานาน 20 ปี และประสบความสำเร็จ แต่ยังมีบางพื้นที่ที่ยังเข้าไม่ถึง และมีประเด็นใหญ่อื่นๆที่เกิดขึ้น เช่น เกิดความเสียหายจากน้ำทะเลที่ท่วมเข้าไปในพื้นที่ชุมชน กิจกรรมทางประมงลดลงจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงหรือขยะทางทะเล รวมทั้งความยากจนจากผลเหล่านั้นซึ่งยังคงเป็นปัญหาใหญ่อยู่
ในการสนับสนุนครั้งนี้ จะฟื้นฟูและปลูกป่าชายเลนขนาดพื้นที่ 32 เฮกเตอร์ เป็นการมุ่งหวังในการมีส่วนร่วมเพื่อป้องกันภัยพิบัติและสร้างประโยชน์ไปพร้อมๆกันกับการพัฒนาอุตสาหกรรมเดิม เช่น การประมงโดยดำเนินการปรับปรุงสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสนับสนุนการศึกษาหรือการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ และการจัดการปัญหาขยะทางทะเล ทางรัฐบาลญี่ปุ่นจึงได้สนับสนุนเงินจำนวน 19,199,396 บาท
ในการลงนามครั้งนี้ นางสาวโทโมมิ ตัวแทนองค์กรออยสก้า ประจำประเทศไทย ได้แสดงความตั้งใจที่จะเริ่มโครงในวันที่ 11 มีนาคม ซึ่งเป็นวันครบรอบ 10 ปี ของเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ในภูมิภาคโทโฮกุของประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นนิมิตหมายอันดีในการเริ่มโครงการปลูกป่าชายเลนนี้เพื่อช่วยการดำรงอยู่ของผู้คน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ความร่วมมือแบบให้เปล่ากับองค์กรอิสระไม่แสวงหากำไร (เอ็นจีโอ) ของประเทศญี่ปุ่น
แผนกเศรษฐกิจ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
เลขที่ 177 ถนนวิทยุ ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
โทรศัพท์ 0-2696-3000, 0-2207-8500
โทรสาร 0-2207-8517